วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สิ่งที่ได้จากการดู Secret Sunshine (Spoiler Alert)





เมื่อหลายวันก่อนผมมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Secret Sunshine ภาพยนตร์ที่ได้รางวัลปาล์มทองคำและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี 2007 รวมไปถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวที Asian Film Awards และ Asia Pacific Awards แค่รางวัลปาล์มทองคำก็การันตีได้แล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีทิศทางการดำเนินเรื่องแบบไหน
ชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาษาเกาหลีคือ 밀양 (Milyang) ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Secret Sunshine โดยในเนื้อเรื่องนั้นเกี่ยวกับตัวนางเอกที่พึ่งสูญเสียสามีของเธอไป เธอจึงตัดสินใจพาลูกชายของเธอย้ายไปอยู่ที่เมืองเกิดของสามีของเธอซึ่งก็คือเมือง Milyang เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด ซึ่งคนในเมืองนี่ก็แตกต่างจากคนในเมืองหลวงที่เธอเคยชิน จนมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือลูกชายของเธอถูกลักพาตัวไป ทำให้เธอต้องเผชิญกับความทุกข์ที่ถาโถมเข้ามาหาเธออยู่คนเดียว
การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างนิ่งตามสไตล์หนังเวทีคานส์ของเกาหลี ซึ่งมีเสน่ห์คือแทรกคีย์เมสเสสเอาใว้ได้อย่างแยบยล การสูญเสียลูกชายคนเดียวของเธอไปนั้น ทำให้ Shin-Ae (Jo Do Yeon) ซึ่งเป็นคนที่แทบไม่มีความเชื่อในตัวพระเจ้าอยู่แล้ว สูญเสียความเชื่อต่อพระเจ้าไปยิ่งกว่าเดิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอสงสัยในตัวของพระเจ้าที่บอกว่ารักทุกคนอย่างเท่าเทียมว่า "ทำไมถึงทำกับเธอถึงขนาดนี้" ในช่วงหลังของเรื่อง Shin-Ae ได้ยอมรับในพระเจ้าและสามารถหาความสงบให้แก่ตัวเองได้ แต่ความสงบนั้นก็ไม่ใช้เรื่องง่าย Lee Chang-Dong ผู้กำกับภาพยนตร์ ได้ถ่ายทอดให้เห็นว่าสิ่งที่เธอทำส่วนหนึ่งเป็นเพียงการโกหกตัวเองเท่านั้น เพราะการที่เราจะให้อภัยบุคคลที่เป็นศัตรูกับเราได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักเขาได้ด้วยใจที่บริสุทธิ์จริงๆเท่านั้น
ในเรื่อง Shin-Ae ได้เรียนรู้ที่จะให้อภัยบุคคลที่ฆ่าลูกชายของเธอ ซึ่งในที่สุดเธอตัดสินใจไปพบเขาในเรือนจำเพื่อจะให้อภัย แต่เธอกลับพบว่าผู้ชายคนนั้นกลับมีความสุขสงบมากกว่าเธอเสียอีก เขาบอกว่าพระเจ้าได้ให้อภัยเขาแล้ว เท่านั้นเองความศรัทธาในพระเจ้าของ Shin-Ae ก็แตกหักลง ในใจเธอตอนนั้นคงคิดว่า 'พระเจ้ารักทุกคนเท่าเทียมกันแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอทำไมมันโหดร้ายนัก' หลังจากนั้น Shin-Ae จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลบ้าอยู่สักพัก ซึ่งในตอนจบของเรื่องเธอได้ไปตัดผมที่ร้านๆนึงหลังออกจากโรงพยาบาลแต่เธอกลับไปเจอกับลูกสาวฆาตกรที่ฆ่าลูกชายเธอ เธอไม่สามารถทนนนั่งอยู่ได้จึงเดินกลับไปที่บ้านอย่างเสียสติ และหยิบกรรไกมาตัดผมให้ตัวเอง Shin-Ae นั่งตัดผมอยู่ชานนอกบ้านซึ่งมีเงาของตัวบ้านมาบังแดดเอาใว้หมด ภาพยนตร์เรื่องนี้จบด้วยการแพนกล้องไปที่พื้นให้เห็นพื้นที่ของแดดและร่มเงา
สิ่งที่ Lee Chang Dong ผู้กำกับพยายามจะบอกคนดูจึงไม่มีอะไรนอกไปเสียจาก "แสงแดดมีอยู่เสมอเพียงแค่บางทีมันส่องไม่ถึงเรา"

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

Urban Chic

sevigny.chloe, originally uploaded by hellkids.

urban chic, originally uploaded by hellkids.


My first selection inspire by Chloe Sevigny

Flintstone


Scott4, originally uploaded by hellkids.

Backstage at Jeremy Scott

The New J12

Chanel Celebrating Icon Watch Birthday

In 2001 Jacques Halleu has created an icon watch for Chanel known for it ceramic Black and White.Celebrate it birthday with it special aniversary edition called 'J12 Marine' which has three colour 'Grand Blau (Big Blue)' 'Blanc ecume (White Scum)' and ' Noir d'ancre (Black Anchor). The colour inspired by nautical world and Sailor key piece colour White and navy.
Come in black ceramic box and steel base, black rubber stab and blue bezel. Available in two size 38 mm and 42 mm. Mechanical movement with automatic winding. Water-resitant 300 metres.

Emilio Pucci Exclusive Kaftan for Cannes Film Festival


Emilo Pucci Kaftan For Cannes Film Festival
Only avaliable at Cannes store in a special dedicated for
63 aniversary of Cannes film festival .Emilio Pucci has created
the limited edition of "French Riviera" with psychedelic printed
signature of the brand and cutting fluid bohemian. Printed on
diffrent black and white or blue and white Silk Chiffon.
Avaliable from May 3.